อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Bookmark and Share
Bookmark and Share

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ป.ช.ช. ตรวจสอบศาล !!!

 
ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 21:30:15 น.  มติชนออนไลน์

ป.ช.ช. ตรวจสอบศาล !!!

โดย ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ*

“ ดุลพินิจ ไม่ใช่ความเห็นส่วนตัว”  หากผู้พิพากษาท่านหนึ่งต้องประหารผู้กระทำความผิดตามกฎหมายโดยไม่มีเหตุลด โทษใดๆ  แต่ท่านไม่ประหารเพราะ “กลัวบาป” หรือเพราะท่านไม่เห็นด้วยกับโทษประหารชีวิต ผู้พิพากษาท่านนั้นต้องลาออก เพราะท่านไม่เคารพและปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย


แต่กลับเอา “อคติส่วนตัว” มาใช้ อคติที่ว่านี้คือ “ภยาคติ”


การกลัวบาป เป็นมโนธรรมที่ดี แต่หากเกิดด้วยมิจฉาทิฐิ ก็กลับกลายเป็นภยาคติ ได้โดยไม่ต้องมีใครเอามีดมาจ่อคอหอย หรือเอา M 79 มาขู่


ผู้พิพากษาเป็นเพียงผู้ชี้กรรมเท่านั้น ท่านหาได้เป็นผู้ทำบาปหรือสร้างกรรมไม่ แต่หากทำด้วยอคติท่านจึงจะกลายเป็นผู้สร้างกรรมและต้องชดใช้กรรมที่ท่านก่อ ไว้นั้นเอง 


ดังนั้นการที่ท่านคิดว่าการชี้กรรมนั้นเป็นการทำบาปจึงเกิดจากความไม่รู้จริง เป็นโมหาคติ การกลัวบาปจึงกลายเป็นภยาคติ ด้วยเหตุนี้


การใช้ดุลพินิจที่ไม่มีหลักเกณฑ์ เพราะไม่มีเหตุผลรองรับเป็น “อำเภอใจ” (arbitariness) เป็น โมหาคติ อย่างหนึ่ง  หากทำไปเพราะเพื่อตามใจผู้มีอำนาจไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าศาลด้วยกัน ฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายนิติบัญญัติ ก็เป็นฉันทาคติ คือตัดสินตามความพอใจของตน ใครคัดค้านโต้แย้ง ก็ลงโทษด้วยบทละเมิดอำนาจศาล หรือดูหมิ่นศาล ก็จะกลายเป็น โทสาคติ ได้


ถ้าผู้พิพากษาใช้ดุลพินิจตัดสินด้วยอคติอย่างใดอย่างหนึ่งใน 4 นี้ ใครจะเป็นคนชี้ว่าท่านไม่ควรเป็นผู้พิพากษาอีกต่อไป ! หรือจะรอให้ผลกรรมตกแก่ตัวท่านเองเท่านั้น


หากเป็นเช่นนั้นความเชื่อมั่นศรัทธา และความชอบธรรมในการใช้อำนาจของศาลก็จะ ลดน้อย เสื่อมทรามลงและ ค่อย ๆ ถูกกัดกร่อนบ่อนทำลายสถาบันตุลาการจนล่มสลายจากความไว้วางใจไปในที่สุด


สังคม ประเทศชาติก็จะขาดที่พึ่งแหล่งสุดท้ายไปอย่างที่ไม่มีใครจะช่วยได้


เรามีบทลงโทษผู้ที่ใช้อิทธิพลข่มขู่ คุกคาม ผู้พิพากษา แต่ผู้พิพากษาที่อยู่ใต้อิทธิพลของอคติ 4 กลับไม่มีใครลงโทษได้โดยอ้างอาศัยว่าเป็น “ดุลพินิจ”


คนเสนอทรัพย์สินให้เจ้าหน้าที่ศาล ถูกลงโทษได้ทันทีฐานละเมิดอำนาจศาล แต่คนของศาลที่รับทรัพย์สินไว้กลับไม่มีใครลงโทษ ด้วยเหตุผลร้อยแปด


สมมติว่าผู้พิพากษาท่านหนึ่งเรียกคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในคดีมรดก หรือคดีของบริษัทจัดสรรที่ดินรายใหญ่เข้าไกล่เกลี่ยแล้วท่านเพียงกล่าวว่า


“ศาลเองก็อยากซื้อหรืออยากขายที่ดินสักแปลงหนึ่งเหมือนกัน ขอปรึกษาว่าจะทำไงดี”


หากต่อมาปรากฏว่าคดีนี้ฝ่ายที่ไม่ได้ “ให้คำแนะนำ” อันเป็นที่พอใจของศาลถูกตัดสินให้แพ้คดี ทั้งที่ข้อกฎหมายเป็นไปในทางตรงกันข้ามโดยศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาตัดสินกลับคำ พิพากษานั้นในภาย หลัง จะมีใครกลับไปพิจารณาพฤติกรรมอันไม่ชัดแจ้งดังกล่าวนี้หรือไม่ ?


คงไม่ ....  เพราะเป็น “ดุลพินิจ” ของผู้พิพากษาท่านนั้น และสามารถอุทธรณ์ ฎีกาได้อยู่แล้วกระมัง และทรัพย์สินของท่านก็ไม่มีอะไรเพิ่มขึ้น !!!


หลักฐานในการใช้อคติด้านการเงินจึงไม่ปรากฏ ทั้งที่ ด้านข้อกฎหมายปรากฎชัด


นี่คือดุลพินิจที่ไม่มีใครตรวจสอบได้


ดังนั้น การที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช. )จะเข้าตรวจสอบพฤติกรรม น่าสงสัยของ “ข้าราชการในตำแหน่งตุลาการ” ก็ไม่น่าจะมีอะไรขัดข้อง เป็นการช่วยกันหาข้อเท็จจริง และไม่เกี่ยวกับความเป็นอิสระของผู้พิพากษาและการทำงานของ คณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) เพราะท่านเองก็จะได้ข้อเท็จจริง

 

หากผู้เกี่ยวข้องไปร้องต่อ คณะกรรมการตุลาการเองโดยไม่มีข้อเท็จจริงประกอบ (เพราะไม่มีอำนาจไปขุดคุ้ย) ก็อาจจะโดนผู้พิพากษาที่ถูกร้องเรียนนั้นฟ้องร้องเอาฐานดูหมิ่นศาลหรือ แจ้งความเท็จต่อ ก.ต. ซึ่งก็มีกรณีเกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ และเขาก็อาจจะแพ้คดีที่เขาถูก ผู้พิพากษาฟ้องเขาในศาลที่ผู้พิพากษาท่านนั้นสังกัดอยู่ดี


หากเราจะถือหลักว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และต้องทำงานด้วยความโปร่งใส ภายใต้กฎหมาย ก็ต้องให้ ป.ป.ช. นี่แหละเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ แม้แต่ข้าราชการในตำแหน่งตุลาการ  ผมมีกฎหมายอ้างอิง 2 ฉบับ ดังนี้


ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201  บัญญัติว่า “ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ พนักงานอัยการ ........ ฯ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต”

 
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต พ.ศ. 2542  มาตรา  4 บัญญัติไว้ ความว่า  “ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

เจ้าหน้าที่ของรัฐ   หมายความว่า  ….  ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นซึ่งมีตำแหน่ง  หรือเงินเดือนประจำ  ….. หรือคณะบุคคลซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางการปกครองของรัฐในการ ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามกฎหมาย  ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ  รัฐวิสาหกิจ  หรือกิจการอื่นของรัฐ  …..  
--------------   ฯลฯ  -----------------
 

 มาตรา  19  คณะกรรมการ ป.ป.ช.  มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้


 (1) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นเสนอต่อวุฒิสภาตามหมวด  5  การถอดถอนจากตำแหน่ง


 (2) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นเพื่อส่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดี......


 (3) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ  กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม


 (4) ตรวจสอบความถูกต้อง ....... “


ผู้เสียหาย ก็ทำได้โดยชอบตามมาตรา 84  ความว่า “ การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ .... ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ในการยุติธรรม ให้ผู้กล่าวหายื่นคำกล่าวหาเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของตนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ ของรัฐไม่เกินสองปี”


เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับคำกล่าวหา ….  หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดกระทำความผิดฐานทุจริตต่อ หน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหมวด 4 การไต่สวนข้อเท็จจริง (มาตรา 88)   หากป.ป.ช.ไม่ทำก็จะมีความผิดได้ ป.ป.ช. จึงต้องทำ


หาก เห็นว่าการให้ผู้ถูกกล่าวหายังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอาจจะก่อความเสียหายให้ แก่ทางราชการหรือเป็นอุปสรรคในการไต่สวน คณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจขอให้พักราชการผู้ถูกกล่าวหาก็ได้ ตามมาตรา 90  


คณะกรรมการตุลาการ ตามกฎหมายฉบับนี้เป็นผู้บังคับบัญชาพิจารณาความผิดทางวินัยของผู้พิพากษาเท่านั้น ตามมาตรา 92   “ในกรณีมีมูลความผิดทางวินัย เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดแล้วมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาผู้ ใดได้กระทำความผิดวินัย …. กรณีผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการตุลาการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ .....  ให้ประธานกรรมการส่งรายงานและเอกสาร ที่มีอยู่ พร้อมทั้งความเห็นไปยังประธานคณะกรรมการตุลาการ .....  เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่าย ตุลาการ …. โดยเร็ว โดยให้ถือเอารายงานและเอกสารของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นส่วนหนึ่งของ สำนวนการสอบสวนด้วย และเมื่อดำเนินการได้ผลประการใดแล้วให้แจ้งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบภายใน สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้มีคำสั่งลงโทษทางวินัย .... ฯ”


มาตรา 95   ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหาไม่ดำเนินการ ทางวินัย ... หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่าการดำเนินการทางวินัยของผู้บังคับบัญชา ... ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม ….ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหา ผู้ นั้นเป็นข้าราชการตุลาการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการข้า ราชการตุลาการ .... ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. แจ้งความเห็นไปยังประธานคณะกรรมการตุลาการ... ฯ”


ผมจึงเห็นไปว่า การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช.  นั้นทำได้และมิได้ก้าวก่ายอำนาจใคร เพราะเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนจะปรากฏต่อมาว่าใครบริสุทธิ์หรือทุจริตอย่างไรหรือไม่ ก็ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่พบ อย่าห้ามการหาข้อเท็จจริงเลย


สำหรับเหตุการณ์ประกอบพฤติกรรมต่าง ๆ ของผู้เกี่ยวข้องที่ตามมา ... ทำให้ผมเกิดความกังขา ... ขอตั้งคำถาม ณ ตรงนี้อีกครั้งหนึ่งว่า


ถ้ามีเรื่องกับใคร ให้ไปพึ่งศาล


แต่ถ้ามีเรื่องกับศาลจะหันหน้าไปพึ่งใคร ?(ถ้าไม่ใช่ป.ป.ช.)


ในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้  ศาลเป็นสิ่งเดียวที่ผมเองและประเทศชาติหวังเป็นที่พึ่งสุดท้าย หากผู้พิพากษาบางคนมุ่งทำลายสถาบันศาล ด้วยการแสดงออกไม่ว่า ด้วยโทสาคติก็ดี หรือด้วยโมหาคติ (ไม่รู้กฎหมายและขาดคุณธรรม มโนธรรมของผู้พิพากษา)

 

ผมเอง ประชาชนทั้งหลายและนักกฎหมายทั้งปวง ก็คงจะสิ้นหวัง ได้แต่ปลงอนิจจัง ทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลกันไป

*******

*หมายเหตุ-นิติศาสตร์ บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) และนิติศาสตร์มหาบัณฑิต  (สาขากฎหมายอาญา  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) เนติบัณฑิตไทย, LL.M. (University of Pennsylvania), ประกาศนียบัตรชั้นสูงทางกฎหมายอาญา (D.E.A. de sciences criminelles), ปริญญาเอกเกียรตินิยมทางกฎหมายอาญา (l’ Universit? de Nancy 2); Doctorat en droit p?nal, mention tr?s honorables (l’ Universit? de Nancy 2),  รองศาสตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1267010623&grpid=&catid=02

ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809
/wordcamp-bangkok-2009-pool-party
C:\Documents and Settings\user\My Documents\ไฟล์ที่ได้รับของฉัน\issarachon1101.wma
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=hiansoon

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น