อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Bookmark and Share
Bookmark and Share

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

[Food not Bombs Thailand] Final กำหนดการงานรำลึก 33 ปี 6 ตุลา ที่ธรรมศาสตร์



 
จาก: Suluck Lamubol <suluck@gmail.com>
วันที่: กันยายน 29, 2009 8:24 หลังเที่ยง
หัวเรื่อง: [Food not Bombs Thailand] Fwd: Final กำหนดการงานรำลึก 33 ปี 6 ตุลา ที่ธรรมศาสตร์
ถึง: food-not-bombs-thailand@googlegroups.com,



 
From: Vipar Daomanee <comradevi@yahoo.com>
Date: 2009/9/29
Subject: Final กำหนดการงานรำลึก 33 ปี 6 ตุลา ที่ธรรมศาสตร์
To: 


โครงการกำแพงประวัติศาสตร์ : ธรรมศาสตร์กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

จัดงานรำลึก ๓๓ ปี ๖ ตุลา  ณ สวนประติมากรรมประวัติศาสตร์

                                                                                         มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

..............................................

  กำหนดการ วันอังคารที่ ๖ ตุลาคม  พ.ศ.๒๕๕๒

 

๐๗.๐๐ น. - ๐๗.๓๐ น.       ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์  ๓๔ รูป ที่บริเวณหน้าหอประชุมใหญ่

 

๐๘.๐๐ น.๐๙.๐๐ น.         กล่าวเปิดงาน  โดย ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

                                           บทกวีรำลึกวีรชน ๖ ตุลาโดย วัฒน์  วรรลยางกูล   

                                           กล่าวไว้อาลัยและสืบสานเจตนารมณ์วีรชน๖ตุลา

                                           โดย   ตัวแทนญาติวีรชน ๖ ตุลาคม 

                                            ตัวแทน ๑๘ ผู้ต้องหา

                                            เลขาธิการเครือข่ายเดือนตุลา

                                            เลขาธิการ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)

                                            ตัวแทนคณะกรรมการจัดงาน 110 ปี ชาตกาลรัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์

                                            ตัวแทนกรรมกร ชาวนา สมัชชาคนจน/ สหพันธ์-สหภาพแรงงาน

                                            ตัวแทนแนวร่วมศิลปิน

                                            ตัวแทน องค์กรนักศึกษา กลุ่มองค์กรประชาธิปไตย  

 

๐๙.๓๐ น. ๑๒.๐๐ น.       ณ ห้อง LT1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  

                                            ปาฐกถาประจำปี เรื่อง  

   “ แนวคิดประชาธิปไตยสมบูรณ์ของปรีดี พนมยงค์ กับ เจตนารมณ์วีรชน ๖ ตุลา ๒๕๑๙ 

                                            โดย   ดร.ฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล      ดำเนินรายการโดย  อ.วิภา  ดาวมณี

 

๑๒.๓๐ น.- ๑๕.๐๐ น.        เสวนา “ อุดมการณ์ ๖ ตุลากับ อำมาตยาธิปไตย ”

                                            วิทยากร  สุรชัย แช่ด่าน   ผู้ประสานงานกลุ่มแดงสยาม

                                             วัฒนะ วรรณ       กลุ่มเลี้ยวซ้าย

                                             และ ตัวแทนสมัชชาสังคมก้าวหน้า

                                             ดำเนินการโดยพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย

 

๑๕.๐๐ น. - ๑๗.๐๐ น.        สรุปบทเรียน ๓๓ ปี ๖ ตุลา กับขบวนการขวาใหม่ในไทย

                                             วิทยากร   ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ คณะกรรมการรับข้อมูลและสืบพยานเหตุการณ์ ๖ ตุลา

                                               จาตุรนต์ ฉายแสง*  อดีตผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ ๖ ตุลา ๒๕๑๙

                                               กนกพร แสนสุขสม* นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

                                             ดำเนินการโดย  อนุธีร์ เดชเทวพร เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)

 

ในเวลา ๑๗.๐๐น. - ๑๙.๐๐ น.   ณ ลานประติมากรรม กำแพงประวัติศาสตร์

                                             ชมกิจกรรมศิลปวัฒนธรรม ดนตรี จากวงดนตรีนักศึกษา

 

หมายเหตุ

*อยู่ระหว่างติดต่อ

 

 

สอบถามรายละเอียดที่  

โครงการกำแพงประวัติศาสตร์   โทร. ๐๒-๖๑๓ ๒๐๑๑,  ๐๘๑-๖๑๓ ๔๗๙๒    Email: octnet72@yahoo.com

สนนท. โทร. ๐๘๑ ๑๗๑๓๓๗๐ Email:  anuthee_sk124@hotmail.com

 

                                                                                                                                                    อยากรู้จริงเรื่อง ๖ ตุลา คลิก  www.2519.net



 
................................................................
Seeking for the Truth of 6 October 1976,
Vipar Daomanee tel. 081 613 4792
 




--

Please click and listen  
the Seagull http://www.santipap.com/1/nangnol.htm
Sound Of Silence
http://www.youtube.com/watch?v=78lHcrxGx94&feature=related






--
Suluck Lamubol (Fai)

Chulalongkorn University Student
Student Federation of Thailand

Email: Suluck@gmail.com
MSN: suluck_fai@hotmail.com
Skype: fai.suluck

--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
You received this message because you are subscribed to the Google Groups "Food not Bombs Thailand" group.
To post to this group, send email to food-not-bombs-thailand@googlegroups.com
To unsubscribe from this group, send email to food-not-bombs-thailand+unsubscribe@googlegroups.com
For more options, visit this group at http://groups.google.com/group/food-not-bombs-thailand?hl=en
-~----------~----~----~----~------~----~------~--~---




--
ขอเชิญอ่าน  blog.Thank you so much.
chan
http://integration9.blogspot.com/ integration
http://sundara21.blogspot.com/      sandara
http://same111.blogspot.com/        culture
http://sea-canoe.blogspot.com/      seacanoe
http://baankruaeed.wordpress.com/
http://ngaochan.hi5.com/
http://www.oknation.net/blog/subaltern
http://gotoknow.org/migrantworkers

ประวัติศาสตร์แห่งเดือนตุลา ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ ประวัติศาสตร์แห่งเดือนตุลา ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/krunoppol/2009/09/30/entry-1 ....................................................................... ผู้ส่ง ประวัติศาสตร์แห่งเดือนตุลา

ขอให้เผยแพร่คำตัดสินอย่างละเอียด

  ขอให้เผยแพร่คำตัดสินอย่างละเอียด / บทบรรณาธิการ

บรรณาธิการ1/10/2552

                                                                ขอให้เผยแพร่คำตัดสินอย่างละเอียด       

                ในสัปดาห์นี้มีเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมและการทำงานขององค์กรอิสระที่ได้วินิจฉัยหรือตัดสินคดี  และชี้มูลความผิดกันหลายกรณี   ตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญ  ศาลปกครอง  ศาลฎีกาสำหรับนักการเมือง และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) เป็นต้น

                เรื่องราวที่วินิจฉัยหรือชี้มูลก็ล้วนเป็นเรื่องใหญ่  เกี่ยวพันถึงนักการเมืองและข้าราชการจำนวนมาก

                คำวินิจฉัยตัดสินหรือการชี้มูลความผิด  ก็กระทำอย่างเปิดเผย    สื่อมวลชนสามารถเผยแพร่ได้อย่างเต็มที่   

                แต่น่าแปลกใจที่หนังสือพิมพ์ไม่ค่อยชอบตีพิมพ์คำวินิจฉัยตัดสิน หรือการชี้มูลความผิดเหล่านั้นให้ครบสมบูรณ์ 

                การอ่านข่าวที่ผ่านการสรุปย่อโดยคนหนังสือพิมพ์นั้น   มักจะขาดเนื้อหารายละเอียดส่วนที่เป็นหลักฐานว่าผิดตามกฎหมายใด มาตราใด  รวมทั้งเนื้อหาของกฎหมายมาตรานั้น ๆ ด้วย

                แน่นอนว่าเนื้อความทั้งหมดอาจมีความยาวมาก   จนไม่มีเนื้อที่ในหนังสือพิมพ์รายวันจะลงพิมพ์ได้ทั้งหมด

                อย่างไรก็ตามในการนำเสนอ  ก็สมควรที่จะสรุปความโดยมีเนื้อหาส่วนที่เป็นเหตุให้ถูกตัดสินว่ามีความผิดเสนอไว้ให้ชัดเจน   เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเหตุผลที่ตัดสินว่าผิด  และเข้าหลักการของข้อกฎหมายนั้น ๆ  อย่างชัดแจ้ง

                เพราะถ้าหากเนื้อความตรงนี้ย่นย่อจนคลุมเครือ    ก็อาจจะสร้างความสับสน ความไม่เข้าใจในหมู่มวลชนขึ้นได้

                ตามหน้าหนังสือพิมพ์นั้น    ข้อมูลละเอียดมีน้อย   แต่คอลัมน์แสดงความรู้สึกตามอารมณ์กลับมีเยอะ    เรื่องนี้จะทำให้การแบ่งฝักฝ่ายรุนแรงขึ้น   เพราะนอกจากจะไม่ยอมรับรู้ข้อมูลพื้นฐานให้ละเอียดแล้ว   ยังกระตุ้นความรู้สึกกันด้วยข้อเขียนที่เลือกใช้ข้อมูลไม่รอบด้าน และใช้อารมณ์ความเชื่อส่วนตัวในการเขียนอีกด้วย

                การเผยแพร่คำวินิจฉัยตัดสินและคำชี้มูลความผิดที่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น   เมื่อภาคเอกชนไม่สนใจจะเผยแพร่   รัฐก็ต้องช่วยเผยแพร่ให้ทั่วถึง  จะใช้รูปแบบอย่างไร  เราคงไม่ต้องถึงกับไปจับมือสอนท่าน

                สำหรับประชาชนทั่วไปแล้ว  เราก็เป็นห่วงในประเด็น   การมีความเชื่อ การใช้อารมณ์ โดยขาดการรับรู้ข้อมูลละเอียดเสียก่อน  

                เช่นถ้าไม่อ่านคำวินิจฉัยตัดสิน คำชี้ข้อมูลความผิด ให้เข้าใจอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว   ก็อาจจะใช้อารมณ์ความรู้สึกไปตามความเชื่อที่อคติได้

                เราจึงเรียกร้องให้เผยแพร่คำวินิจฉัยและคำชี้มูลความผิดกรณีสำคัญ ๆ ให้ทั่วถึง  โดยสื่อทุกประเภท       

http://www.siamrath.co.th/uifont/Articledetail.aspx?nid=4286&acid=4286

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ tkpark
http://kbparks.blogspot.com/ tkpark9
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552

อำนาจใหม่ สตง.ขรก.ผวาหนัก



 
วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 20:30:32 น.  มติชนออนไลน์

อำนาจใหม่ สตง.ขรก.ผวาหนัก

โดย ประสงค์ วิสุทธิ์

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เคยเขียนถึงร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.... ที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว


ในครั้งนั้นได้แสดงความห่วงใยว่า ถ้าร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านรัฐสภาโดยไม่มีการแก้ไขแล้ว จะทำให้เจตนารมณ์ในการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.)ถูกบิดเบือนไป จากรัฐธรรมนูญเพราะมีการขยายอำนาจของ คตง.และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ออกไปอย่างมากมายโดยเฉพาะ การปราบปรามการทุจริตเช่นเดียวกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ(ป.ป.ช.)


นอกจากเขียนแล้ว ยังได้นำเรื่องดังกล่าวไปอภิปรายในการประชุมรับฟังความเห็นของคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ....ซึ่งมี ส.ส.จำนวนมากเข้าร่วม รวมทั้งนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ด้วย


ในการอภิปรายในเวทีดังกล่าวได้เตือนว่า การ ให้อำนาจ คตง.และ สตง.เทียบเท่าหรือมากกว่า ป.ป.ช.จะสร้างความหวาดผวาและปั่นป่วนแก่เจ้าหน้าที่รัฐ เพราะนอกจากจะถูกตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ถ้าถูก คตง.มีมติชี้มูลว่ากระทำผิดทางวินัยร้ายแรงหรือกระทำผิดอาญาแล้ว แทบจะไม่มีโอกาสต่อสู้เลย ต้องถูกไล่ออก-ปลดออกและถูกส่งตัวขึ้นศาลอาญาซึ่งต้องใช้เวลาในการพิจารณา หลายปี


แต่ปรากฏว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ซึ่งคณะกรรมาธิการฯพิจารณาแสร็จและส่งร่างกฎหมายให้ประธาน สภาผู้แทนราษฎรบรรจุเข้าพิจารณาในวาระที่ 2 เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2552 แทบไม่มีการแก้ไขเลย  คตง.และ สตง.ยังมีอำนาจล้นฟ้าเหมือนเดิมทุกประการคือ มีอำนาจ.ตรวจสืบสวนกรณีที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยรับ ตรวจ กระทำทุจริตเกี่ยวกับการบริหารการเงินการคลังหรือการกระทำผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินหรือทรัพย์สินของราชการเพื่อดำเนินการ ตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิดและบุคคลอื่นใดที่มีส่วนร่วมในการ กระทำผิดนั้นด้วย(มาตรา 63 (จ))


หลังจากตรวจสืบสวนแล้ว คตง.มีอำนาจวินิจฉัยทั้งในทางละเมิด วินัยและอาญา ดังนี้


1.กรณีมูลความผิดทางละเมิด เมื่อ คตง.มีมติกล่าวหาว่า ผู้ใดกระทำความผิด  ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเรียกชดใช้ค่าเสียหายตามที่ คตง.มีมติโดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทาง ละเมิดอีกโดยให้ถือสำนวนการตรวจสอบสืบสวนและเอกสารหลักฐานพร้อมกับความเห็น ของ คตง.เป็นสำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ทั้งนี้เรียกให้ผู้กระทำผิดชดใช้ค่าเสียหายภายใน 30 วันและแจ้งให้ คตง.ทราบผลภายใน 15 วัน (มาตรา 95,97)


2.กรณีความผิดทางวินัย เมื่อ คตง.มีมติกล่าวหาผู้ใดกระทำความผิด ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัยตามฐานความผิดที่ คตง.มีมติโดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีก โดยให้ถือสำนวนการตรวจสอบสืบสวนฯของ คตง.เป็นสำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบทางวินัย ทั้งนี้ พิจารณาลงโทษภายใน 30 วันและแจ้งให้ คตง.ทราบภายใน 15 วัน(มาตรา 96,97)


3. กรณีความผิดทางอาญา เมื่อ คตง.มีมติกล่าวหาผู้ใดกระทำความผิด ให้ส่งสำนวนตรวจสืบสวน และอเกสารหลักฐานพร้อมความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล โดยให้ถือสำนวนการตรวจสืบสวนของ คตง.เป็นสำนวนการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ถ้าอัยการสูงสุดเห็นว่า สำนวนไม่สมบูรรณ์เพียงพอให้ตั้งคณะทำงานร่วมขึ้นมาพิจารณา ถ้ายังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ให้ คตง.สามารถฟ้องคดีเองได้(มาตรา 99)


การที่ คตง.และ สตง.มีอำนาจมากมายเช่นนี้ จึงแสดงความเห็นห่วงไปว่า จะมีเขตอำนาจทับซ้อนกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีกรรมาธิการฯบางคนไปเพิ่มเงื่อนไขห้ามมิให้ คตง.รับเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงหรือดำเนินการไต่สวนด้วยวิธีอื่น(มาตรา 87)


อย่างไรก็ตามไม่มีกรรมาธิการที่เป็น ส.ส.คนใดขอสงวนคำแปรญัตติในการตัดอำนาจของ คตง.เลย ยกเว้นนายนิพนธ์ ฮะกีมี ผู้ช่วยลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ขอตัดอำนาจของ คตง.ที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด


แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่า ส.ส.ทั้งสภาใบ้กินหรือไม่มีใครสนับสนุนแน่นอนเพราะมองไม่เห็นหายนะภัยในการ เพิ่มอำนาจให้แก่องค์กรใดองค์กรหนึ่งอย่างมากโดยไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุล


อย่าลืมว่า แม้คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะมีอำนาจมาก แต่รัฐธรรมนูญทั้งในปี 2540 และ 2550 ยังให้อำนาจแก่สมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อกันยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกรณีที่เห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ


แต่ คตง.มีอำนาจหน้าที่ในระดับเดียวกันหรือมากกว่า กลับไม่มีองค์กรใดทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลในระดับเดียวกัน

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1253885258&grpid=no&catid=02

--
http://www.kmutnb.ac.th/index.htm
http://www.ecitthai.net
http://www.tourismthailand.org/seminar/
http://www.thaihotels.org/
http://www.tuasso.com/scripts/tua.asp

ฟอร์บส์ จัดอันดับ 15 ราชวงศ์ร่ำรวยที่สุดในโลก






ชีค คาลิฟา บิน ซาเยด อัล นาห์ยัน


กษัตริย์อับดุลลาห์ บิน อับดุลลาซีซ์


สุลต่านฮัจยี ฮาสซานาล โบลเกียห์ สุลต่านแห่งบรูไน


ชีค โมฮัมหมัด บิน ราชฮิด อัล มากตูม


เจ้าชายฮานส์-อาดัมที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์


ชีค ฮามาด บิน คาลิฟา อัล ทานิ เจ้าผู้ครองแคว้นกาตาร์


กษัตริย์โมฮัมหมัดที่ 4 แห่งโมร็อกโก


กษัตริย์โมฮัมหมัดที่ 4 แห่งโมร็อกโก


สุลต่านคาบูส์ บิน ซาอิด แห่งโอมาน

 
วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เวลา 20:30:23 น.  มติชนออนไลน์

ฟอร์บส์ จัดอันดับ 15 ราชวงศ์ร่ำรวยที่สุดในโลก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชทรัพย์ในปีนี้ถูกจัดว่ามากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน ซึ่งพระองค์ทรงดำเนินเป็นโครงการในพระราชดำริ มากกว่า 2,000 โครงการ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน การจัดอันดับราชวงศ์ที่มีทรัพย์สิน ร่ำรวยที่สุดในโลก 1-15 อันดับ โดยนิตยสาร ฟอร์บส์ ในวันที่ 21 สิงหาคม โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทย มีพระชนมายุ 80 พรรษา เป็นกษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลก 62 ปี ทรงมีพระราชทรัพย์สินมูลค่า 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน มีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทำหน้าที่เป็นหน่วยลงทุน และจัดการทรัพย์สินต่าง ๆ โดยพระองค์ได้รับพระฉายาว่า เป็นกษัตริย์นักพัฒนา เนื่องจากทรงทำโครงการพระราชดำริมากกว่า 2,000 โครงการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ยากจน ตลอดเวลาที่ทรงครองราชย์

 

ทั้งนี้ ฟอร์บส์ ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถือครองที่ดินรวม 3,493 เอเคอร์อยู่ในกรุงเทพฯ หรือประมาณ 8,700 ไร่ (**เป็นประเด็นที่สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ฟอร์บส์ นำเสนอข้อมูลดังกล่าวคลาดเคลื่อน)

 

อันดับ 2 ชีค คาลิฟา บิน ซาเยด อัล นาห์ยัน พระชนมายุ 60  พรรษา  มีพระราชทรัพย์  23,000 ล้านดอลลาร์ ทรงครองนครอาบู ดาบี ซึ่งกำลังทำเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมของตะวัน ออกกลาง

 

อันดับ 3 กษัตริย์อับดุลลาห์ บิน อับดุลลาซีซ์  ประเทศซาอุดีอาระเบีย พระชนมมายุ 84 พรรษา ทรงมีทรัพย์สิน 21,000 พันล้านดอลลาร์ ขึ้นครองราชย์ปี 2005 จากนั้นทรงเริ่มก่อสร้างเมืองมูลค่า 26 พันล้านดอลลาร์

 

อันดับ 4 สุลต่านฮัจยี ฮาสซานาล โบลเกียห์ สุลต่านแห่งบรูไน พระชนมพรรษา 62 พรรษา มีทรัพย์สิน 20,00 ล้านดอลลาร์ ขึ้นครองราชย์เป็นสุลต่านองค์ที่ 29 แห่งราชวงศ์บรูไนเมื่อ 41 ปีที่ผ่านมา ทรงรับมรดกตกทอดจากราชวงศ์ที่มีอายุยืนนานมา 600 ปี ทรงเป็นนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม, รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และผู้นำศาสนาด้วยพระองค์เอง เป็นประเทศที่มีน้ำมันและแหล่งแก๊สธรรมชาติ แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำมันสำรองเริ่มลดลง ทำให้มูลค่าทรัพย์สินลดลง ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่รวยเป็นอันดับหนึ่ง

 

อันดับ 5 ชีค โมฮัมหมัด บิน ราชฮิด อัล มากตูม พระชนมมายุ 58 พรรษา เจ้าผู้ครองนครดูไบ มีทรัพย์สมบัติมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์ ทรงเป็นซีอีโอของดูไบ อิงค์ ทรงร่วมทรัพย์สมบัติกับพี่น้องอีก 2 พระองค์ เมื่อปี 2007 ทรงเข้าไปซื้อหุ้นธนาคารเอชเอสบีซี และธนาคารดัตช์ เสนอซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า ชื่อบาร์เนย์ ที่นครนิวยอร์ก และบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อจัดตั้งกองทุนการศึกษาตะวันออกกลาง

 

อันดับ 6 เจ้าชายฮานส์-อาดัมที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์ พระชนมพรรษา 63 พรรษา มีทรัพย์ สิน  5,000 ล้านดอลลาร์ พระองค์ทรงรับมรดกตกทอดมาจากราชวงศ์ที่ยืนยาวกว่า 900 ปี ทรงเป็นนักสะสมศิลปะ 4 ศตวรรษ มีธนาคารเป็นของพระองค์เองคือแอลจีที แบงก์ แต่กำลังถูกสอบสวนในคดีที่เอื้อให้คนรวยเลี่ยงภาษีหรือไม่ และทรงมีอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทในสหรัฐที่ผลิตข้าวอินทรีย์คือไม่ใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ใด ๆ

 

อันดับ 7 ชีค ฮามาด บิน คาลิฟา อัล ทานิ เจ้าผู้ครองแคว้นกาตาร์ มีพระชนมมายุ 56 พรรษา ทรัพย์สมบัติ 2,000 ล้านดอลลาร์ ทรงยึดอำนาจจากพระราชบิดาโดยไม่เสียเลือดเนื้อเมื่อปี 1995 เป็นผู้นิยมในด้านการกีฬา เและทรงเป็นผู้สนับสนุนสถานีวิทยุกระจายเสียงอัล จาซีรา รวมทั้งสถานีวิทยุภาคภาษาอังกฤษชื่อเดียวกัน

 

อันดับ 8 กษัตริย์โมฮัมหมัดที่ 4 แห่งโมร็อกโก พระชนมพรรษา 46 พรรษา มีทรัพย์สิน  1,500 ล้านดอลลาร์ ทรงได้รับฉายาว่า "กษัตริย์แห่งคนจน" พระองค์พยายามจะให้ประชาชนของตนพ้นจากความยากจน ทรงลงทุนธุรกิจเหมืองฟอสเฟต และด้านการเกษตร

 

อันดับ 9 เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก พระชนมพรรษา 20 พรรษา มีทรัพย์สิน 1,400 ล้านดอลลาร์ ทรงปกครองโมนาโก เมื่อปี 2005 ต่อจากพระราชบิดา เจ้าชายอัลเบิร์ต ทรงมีอสังหาริมทรัพย์ และมีหุ้นอยู่ในมอนติคาโล กาสิโน เป็นพระราชโอรสของเจ้าชายอัลเบิร์ต และเจ้าหญิงเกรซ อดีตดาราหนังฮอลลีวู้ดที่สิ้นพระชนม์ไปเมื่อ 26 ปีที่แล้ว

 

อันดับ 10 สุลต่านคาบูส์ บิน ซาอิด แห่งโอมาน พระชนมพรรษา 67 พรรษา มีทรัพย์สมบัติ 1,100ล้านดอลลาร์

 

อันดับ 11 เจ้าชายการิม อัล ฮุสเซนี แห่ง อากา ข่าน  (the Aga Kahn)  อายุ 71 ปี มีพระราชทรัพย์ 1,000 ล้านดอลลาร์ เป็นกษัตริย์ผู้ไม่มีดินแดนครอบครองถือเป็นผู้นำจิตวิญญาณของชาวมุสลิม ประเทศอิสไมลี (Ismaili) ประมาณ 15 ล้านคน  ครองราชสมบัติครบ 51 ปี   มีธุรกิจตั้งแต่ฝรั่งเศสถึงสวิส ทรงชอบเลี้ยง และเพาะพันธุ์ม้า

 

อันดับ 12 สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ พระชนมพรรษา 82 พรรษา ทรงมีทรัพย์สิน 650 ล้านดอลลาร์

 

อันดับ 13 ชีค ซาบาห์ อัล ซาห์บา เจ้าผู้ครองประเทศคูเวต พระชนมพรรษา 79 พรรษา ทรงมีทรัพย์สิน 500 ล้านดอลลาร์

 

อันดับ 14 พระราชินีบีทริกซ์ วิลเฮม มินา อาร์มการ์ด แห่งเนเธอร์แลนด์ พระชนม พรรษา 70  พรรษา ทรัพย์สมบัติ 300 ล้านดอลลาร์

 

อันดับ 15 กษัตริย์มัสวาติ ที่ 2 แห่งสวาซิแลนด์ พระชนมพรรษา 40 พรรษา ทรัพย์สมบัติ 200 ล้านดอลลาร์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีพระชนมพรรษาน้อยที่สุด

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1219385234&grpid=01&catid=42

--
http://www.kmutnb.ac.th/index.htm
http://www.ecitthai.net
http://www.tourismthailand.org/seminar/
http://www.thaihotels.org/
http://www.tuasso.com/scripts/tua.asp

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

ใกล้สรุปผับนรก"ซานติก้า"

 
  ใกล้สรุปผับนรก“ซานติก้า”

ข่าววันที่ 22 กันยายน 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

  

                                                ใกล้สรุปผับนรกซานติก้า

 

 

** เร็วๆ นี้/ปลัดชี้8เดือนไม่ช้า

** แจงต้องรอบคอบเป็นธรรม

 

    ประชาชน ข้องใจจะเป็นปี กทม.ยังไม่ฟันธงเชือดคนผิด ปลัดกทม.ยันเร่งมือเต็มที่ ระบุต้องฟังทุกฝ่าย ชี้ 5 รายที่เข้าข่ายผิดวินัย เผยหากมติก.ก.กทม.ไม่ติดใจ สรุปได้ทันที

 

    จาก เหตุโศกนาฏกรรมสยองไฟไหม้ซานติก้าผับตั้งแต่ม.ค.52 ซึ่งกทม.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ในส่วน ที่กทม.รับผิดชอบ และได้พบความบกพร่องใน 3 ส่วน ที่เกิดจากการกระทำผิดของข้าราชการกทม.ส่งผลให้เกิดเหตุสยอง อาทิ การก่อสร้างไม่ตรงตามแบบที่ยื่นขอ ไม่มีการยื่นขอดัดแปลงอาคารจึงไม่มีใบอนุญาตการใช้อาคารและการตรวจสอบอาคาร ระหว่างที่มีการก่อสร้าง และประเด็นการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและภาษีที่ดินที่ไม่มีการจ่ายตั้งแต่ปี 48-51 สืบเนื่องไปถึงการปลอมลายเซ็นวิศวกร ขณะที่ตำรวจเตรียมสรุปสำนวนคดี แต่ในส่วนกทม.กลับยังไม่คืบหน้าทั้งที่ผ่านมากว่า 8 เดือนแล้วนั้น

    นาย พงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม.เปิดเผยว่า เข้าใจดีว่าประชาชนให้ความสนใจว่า กทม.จะดำเนินการอย่างไรกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบและมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะใช้เวลาตรวจสอบเกือบ 8 เดือนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาโทษทางวินัยจากข้อมูลการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะมีเจ้าหน้าที่ที่เข้าข่ายทำผิดวินัยร้ายแรง 3 รายคือ หัวหน้าฝ่ายโยธา หัวหน้ากลุ่มงานอาคาร และนายตรวจอาคาร ซึ่งรับผิดชอบในขณะนั้นมีความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการตามหน้าที่ให้ครบถ้วน และเจ้าหน้าที่เข้าข่ายทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง 2 รายได้แก่ ผอ.เขตวัฒนาขณะนั้น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาที่ทำแบบแปลนอาคารซานติก้าผับหาย

    หลาย ฝ่ายอาจมองว่ากทม.ทำงานล่าช้า ก็ขอยืนยันเลยว่ากทม.ได้พยายามเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งก็ต้องให้โอกาสข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ชี้แจงเหตุผลถือ ว่าเป็นการรับฟังทุกฝ่าย เมื่อมีการสรุปโทษทางวินัยแล้วก็จะต้องนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการ กรุงเทพมหานคร (ก.ก.กทม.) เพื่อลงมติอีกครั้ง

          ทั้ง นี้ หากคณะกรรมการไม่มีข้อท้วงติง หรือต้องการให้หาข้อมูลเพิ่มเติมก็จะสามารถสรุปได้ทันที ซึ่งเมื่อสรุปแล้วก็ต้องรับโทษทางวินัยตามที่ได้มีมติไปทันที การพิจารณาโทษทางวินัยของกทม.นั้นต้องรอบคอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งกทม.พิจารณาเฉพาะโทษวินัยเท่านั้น ตลอด 8 เดือนที่กทม.ได้พิจารณานั้นได้ทำงานเต็มที่ เชื่อว่าใช้เวลาตามความเหมาะสม อีกทั้งตำรวจใกล้จะสรุปคดีแล้ว ซึ่งกทม.ก็ใกล้จะสรุปเร็วๆ นี้เช่นกัน ปลัดกล่าว

 

 

 
  รูปประกอบข่าว
http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=62&nid=47036

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/
http://newsblog9.blogspot.com/
http://bloghealth99.blogspot.com/
http://labour9.blogspot.com/
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html

เกาะติดสภาเสาชิงช้า/ หนังซ้ำ 45 นาที งบฯเหลื่อมปี 5 พันล้าน

 
 เกาะติดสภาเสาชิงช้า/ หนังซ้ำ45นาที งบฯเหลื่อมปี5พันล้าน

ข่าววันที่ 23 กันยายน 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

 

 

เกาะติดสภาเสาชิงช้า/ นารีนาฏ ภัยวิมุติ

 

                                                 หนังซ้ำ45นาที

                                           งบฯเหลื่อมปี5พันล้าน

 

    ลอด 2 สัปดาห์ที่คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้กทม.ขยายเวลาเบิก จ่ายเงินเหลื่อมปีไว้จ่ายใน ปีงบประมาณ พ.ศ.2553 รวม 305 รายการ 5,159ล้านบาท ได้เชิญหน่วยงานมาชี้แจงรายละเอียดที่ได้มีการขอกันเงินเหลื่อมปี

    ทำ ให้มีกระแสทั้งเรื่องดีและไม่ดีของแต่ละหน่วยงานเรื่องการเตรียมข้อมูล เอกสารประกอบ จนมีเสียงบ่นจากคณะกรรมการวิสามัญว่าเป็นอย่างนี้ทุกปี แก้ยาก แต่สุดท้ายก็พิจารณาแล้วเสร็จ นำเข้าที่ประชุมสภากทม.สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 ครั้งที่ 6 เพื่อขอความเห็นชอบ ในวันที่ 23 ก.ย.52

    เปิดประชุมสภาประมาณ 11.00 น. โดยกิตพล เชิดชูกิจกุล ประธานสภากทม. ตามด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.และคณะ ข้าราชการประจำ ผอ.สำนักและผอ.เขตมาพร้อมพร้อมพรัก

    คราว นี้หัวเรือใหญ่ของข้าราชการ พงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม.ไม่ปล่อยให้สภาต้องรอเก้อมารอก่อนเปิดประชุม พร้อมทักทาย ส.ก.แบบยิ้มแย้มแจ่มใส คาดว่าส.ก.ประเดิมชัย บุญชวยเหลือ คงสมใจเสียทีเพราะ อูฐ (ปลัดอูด) อยู่คู่ทะเลทรายแล้ว

    จากนั้น วิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี ในฐานะประธานคณะวิสามัญพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้กทม.ขยายเวลาเบิกจ่าย เงินเหลื่อมปี ได้รายงานผลการพิจารณาของคณะวิสามัญฯว่ามีมติ 1.เห็นชอบให้ขยายเวลาเบิกเงินเหลื่อมปีไว้จ่ายในปีงบฯ53 รวม247 รายการ 4,182,570,236.58 บาท

    แบ่ง เป็นเห็นชอบเต็มวงเงินที่ขอขยาย 220 รายการ และเห็นชอบโดยปรับลดจำนวนเงินลงเนื่องจากมีการเบิกจ่ายเงินไปบางส่วน 25 รายการ เห็นชอบให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินเหลื่อมปีเท่ากับวงเงินที่ก่อหนี้ตามสัญญา 2 รายการ

    2.เห็นชอบให้หน่วยงานถอนรายการเนื่องจากเบิกจ่ายเงินได้ทันวันที่ 30 ก.ย.52 รวม 46 รายการ เนื่องจากบริษัทยกเลิกสัญญา 2 รายการ มีการทบทวนโครงการใหม่ 3รายการ มีการโอนงบฯไปรายการอื่น 3 รายการ มีวัสดุเพียงพอแล้ว 1 รายการ เอกชนดำเนินการแล้ว 1 รายการ รวมทั้งหมดที่ถอนออกไปทั้งหมด 56 รายการ และ 3.ไม่เห็นชอบให้ขยายเวลาเบิกเงินเหลื่อมปี 2 รายการ   

                ทั้ง นี้ คณะกรรมการยังได้ตั้งข้อสังเกตไว้ อาทิ การขอกันเงินเหลื่อมปีของบางหน่วยงานยังทำแบบไม่มีแผนงานขั้นตอนดำเนินการ ไม่ชัดเจน ซึ่งเกรงจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการทำงานในอนาคต    

                จาก นั้นก็มีส.ก.ลุกขึ้นอภิปรายในรายละเอียด และติติงการทำงานถึงสาเหตุที่ไม่มีการนำรายงานของคณะกรรมการวิสามัญฯให้กับ สมาชิกได้ศึกษารายละเอียด ซึ่งครั้งนี้ได้นำมาให้ก่อนการประชุมไม่นานและให้ในวันประชุม ทำให้ส.ก.หลายท่านไม่มีโอกาสอ่านรายละเอียดทั้งหมดก่อน

    พิรกร วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง และธวัชชัย  ปิยนนทยา ส.ก.เขตสาทรว่า ต้องส่งเอกสารให้ก่อนการประชุมอย่างน้อย 3 วัน-1 สัปดาห์ เพื่อให้มีโอกาสได้อ่าน เมื่อมีจุดใดสงสัยจะได้สอบถามหน่วยงานไขความให้กระจ่าง ก่อนที่จะให้ความเห็นชอบ

    เช่นเดียวกับ สมชาย  เวสารัชตระกูล ส.ก.เขตสายไหม ที่ติงเรื่องเอกสารเช่นกันและตั้งข้อสังเกตว่าในการพิจารณาของสภากทม.ไม่ว่า จะเป็นญัตติใดก็มักจะมีปัญหาเรื่องเอกสาร ทำให้มองได้ว่าที่ผ่านมาไม่เคยได้นำข้อท้วงติงไปปรับแก้ไข ทำให้พูดปัญหาซ้ำ

    ด้าน พิพัฒน์ ลาภปรารถนา ส.ก.เขตบางรัก ว่า จากที่ได้อ่านรายงานพบว่าบางหน่วยงานที่ขอกันเงินเหลื่อมปียังไม่กำหนดแผน การทำงานให้เป็นขั้นตอนที่ชัดเจนเท่าที่ควร จึงไม่มั่นใจว่าขอกันเงินเหลื่อมปีไปแล้วจะปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพหรือ ไม่

    นอก จากนี้ อยากทราบการแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบางขุนเทียน ซึ่งผู้ว่าฯหลายยุคสมัยหยิบยกมาพูดถึงแต่ก็ยังไม่มีใครแก้ปัญหาอย่างเป็น รูปธรรมจริง ทำให้ขณะนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน แต่กทม.ก็ทำอยู่เพียงศึกษาหาความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งล่าช้ามาก ในการขอกันเงินเหลื่อมปีโครงการนี้ทำตั้งแต่ปีงบฯ50 แต่ถึงปัจจุบันก็ยังไม่คืบหน้า

    ทั้ง นี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ชี้แจงยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เนื่องจากเป็นปัญหาสลับซับซ้อน การจะแก้ปัญหาระยะยาวในรูปแบบใดจะต้องหารือกันอีกครั้ง ส่วนระยะสั้นจะแก้อย่างไรก็ต้องเร่งคิด โดยจะใช้งบฯไทยเข้มแข็ง 380 ล้านมาบรรเทาในเบื้องต้นก่อน

                  อย่าง ไรก็ตาม เมื่อมีการลงมติ ที่ประชุมสภามีมติเอกฉันท์ให้ขยายงบฯเหลื่อมปีผ่านโดยใช้เวลาเปิดสภาพิจารณา เพียง 45 นาทีเท่านั้น ทำให้ส.ก.วิพากษ์วิจารณ์กันว่าน้อยเกินไป

 

 

 

 
  รูปประกอบข่าว
http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=62&nid=47120

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/
http://newsblog9.blogspot.com/
http://bloghealth99.blogspot.com/
http://labour9.blogspot.com/
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

กฎ ก.พ.ให้ ขรก.อายุเกิน 60 ปีรับราชการต่อ


 
วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11518 มติชนรายวัน


กฎ ก.พ.ให้ ขรก.อายุเกิน 60 ปีรับราชการต่อ


คอลัมน์ ข้าราษฎร

โดย สายสะพาย



มี การประกาศใช้กฎ ก.พ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ.2552 ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2552 มีสาระสำคัญคือ

1.การให้ข้าราชการ พลเรือนสามัญผู้ใดซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์และดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือดำรงตำแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส หรือระดับทักษะพิเศษ รับราชการต่อไป เมื่อสิ้นปีงบประมาณจะต้องเป็นกรณีที่

(1) มีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ

(2) เป็นตำแหน่งที่ ก.พ.กำหนดว่า มีความขาดแคลนบุคลากรในเชิงปริมาณ หรือเชิงคุณภาพ และหาผู้อื่นปฏิบัติงานแทนได้ยาก เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในทางวิชาการหรือหน้าที่ที่จะต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว และ

(3) ต้องเป็นตำแหน่งที่ผู้นั้นครองอยู่เดิม

2.กำหนดเวลา ที่จะให้รับราชการต่อไป ให้กระทำได้ตามความจำเป็น โดยในครั้งแรกให้สั่งให้รับราชการต่อไปได้ไม่เกิน 4 ปี และจะให้รับราชการต่อไปอีกได้ครั้งละไม่เกิน 3 ปี แต่เมื่อรวมกันแล้วระยะเวลาทั้งหมดต้องไม่เกิน 10 ปี

2.ให้ส่วนราชการจัดทำข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา ดังนี้

(1) แผนงาน โครงการ ตลอดจนภารกิจที่มีความจำเป็นจะให้ผู้นั้นปฏิบัติ จำแนกเป็นรายปี

(2) สภาวะการขาดแคลนบุคลากรในเชิงปริมาณ หรือเชิงคุณภาพทั้งในส่วนราชการนั้นเองและในภาพรวม ความสามารถในทางวิชาการ หรือความสามารถเฉพาะตัวของผู้นั้น และความยากในการหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสม

(3) เหตุผลและความจำเป็นที่จำต้องให้ผู้นั้นปฏิบัติภารกิจ

(4) ระยะเวลาที่จะให้ผู้นั้นรับราชการต่อไป

3.ข้าราชการที่จะให้รับราชการต่อไป ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(1) ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญขึ้นไปหรือประเภททั่วไป ระดับอาวุโสขึ้นไป แล้วแต่กรณี ต่อเนื่องกันมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันสิ้นปีงบประมาณนั้น

(2) มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ทักษะ ประสบการณ์ และมีผลงานหรือผลการปฏิบัติงานในตำแหน่งดังกล่าวเป็นที่ประจักษ์ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนั้นต่อไปได้

(3) ไม่อยู่ในระหว่างการถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่า กระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

4.ให้ ส่วนราชการดำเนินการภายในเดือนมีนาคมของปีงบประมาณและให้ อ.ก.พ. กระทรวง หรือ อ.ก.พ.กรม แล้วแต่กรณี พิจารณาข้อเสนอของส่วนราชการ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนของปีงบประมาณนั้น

5.ข้าราชการฯผู้ นั้นจะต้องดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่เฉพาะตำแหน่งที่ให้รับราชการต่อไป เท่านั้น จะย้าย โอน หรือเลื่อนไปดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ประเภทอำนวยการ หรือตำแหน่งอื่น หรือจะรักษาราชการแทน รักษาการในตำแหน่งหรือไปช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอื่นไม่ได้


หน้า 22
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01edu20220952&sectionid=0107&day=2009-09-22
--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
news
http://net209.blogspot.com/ net9
http://parent-youth.blogspot.com/ parent-youth.net
http://parent-net.blogspot.com/ parent
http://netnine.blogspot.com/  science
http://pwdinth.blogspot.com/
http://senatelibrary.wordpress.com/about/

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

ประธานวุฒิสภา รับหนังสือคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากตัวแทนภาคประชาชน

 

 

 

ประธานวุฒิสภา รับหนังสือคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากตัวแทนภาคประชาชน

15 ก.ย. 52               ประธานวุฒิสภา รับหนังสือจากตัวแทนภาคประชาชน ที่ขอคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกันนี้ ตัวแทนภาคประชาชนขอยื่นเรื่องถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ร่วมกันเสนอญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเห็นว่าเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง

                ศ.พิเศษ ประสพสุข  บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวภายหลังรับหนังสือจาก กลุ่มเครือข่ายภาคีภาคประชาชน กรณีขอคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่มว่า จะให้เจ้าหน้าที่ ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนนางวรารัตน์ อติแพทย์ รองเลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า หลังจากนี้ เลขาธิการวุฒิสภาจะดำเนินการตรวจสอบประวัติและหลักฐานของผู้ยื่นคำร้องก่อนที่จะดำเนินการต่อไป

                ด้านนายแพทย์ ตุลย์  สิทธิสมวงศ์ ในฐานะตัวแทนภาคประชาชน กล่าวว่า การที่ต้องมายื่นเรื่องถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ร่วมกันเสนอญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่า เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของตนเอง ซึ่งเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 122 ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 เพื่อดำเนินการถอดถอน ส.ส.และส.ว.ที่ร่วมกันลงชื่อในครั้งนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                                                                                                                อัญชิสา  จ่าภา         ผู้สื่อข่าว

                                                                                                                มันทนา  ศรีเพ็ญประภา         เรียบเรียง



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/
http://newsblog9.blogspot.com/
http://bloghealth99.blogspot.com/
http://labour9.blogspot.com/
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

ก.ล.ต.เชือดอดีต รมต.ยุคทักษิณ ติดร่างแหแก๊งโกงหุ้น SECC

ก.ล.ต.เชือดอดีต รมต.ยุคทักษิณ ติดร่างแหแก๊งโกงหุ้น SECC
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 กันยายน 2552 09:03 น.
 
ก.ล.ต.แจ้งดีเอสไอกล่าวโทษอดีตผู้บริหาร SECC เพิ่มเติมอีก 6 ประเด็น พร้อมพ่วงผู้ร่วมทุจริตอีก 6 คนร่วมเป็น 7 คน "สุริยา ลาภวิสุทธิสิน" บิ๊กปิกนิก อดีต รมช.ชื่อดังยุคทักษิณ โดนเชือดด้วย
       

       สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมกับนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ อดีตประธานกรรมการ บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือSECC กับพวกเพิ่มเติมอีก 6 ประเด็น รวมทั้งมีผู้ร่วมก่อความผิดเพิ่มด้วย
       
       ก.ล.ต.ระบุว่า นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ กับพวกรวม 5 คน ถูกก.ล.ต.กล่าวโทษก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2551 กรณีร่วมกันทุจริตยักยอกเงินของบริษัท ด้วยการจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จ ในการสั่งซื้อรถยนต์ที่ไม่มีจริง เพื่อให้บริษัทต้องจ่ายเงินจากบัญชี SECC ให้แก่ตนเองหรือบุคคลอื่น จนทำให้ SECC ได้รับความเสียหายเป้นเงินนับพันล้าน ซึ่งเป็นคดีอื้อฉาวเมื่อปลายปีก่อน
       
       ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้ตรงจสอบเพิ่มเติม พบพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่า มีการทำผิดตามพรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เพิ่มอีกหลายลักษณะ จึงได้กล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหารของ SECC และอดีตผู้บริหารบริษัท เอสอีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด (SECC Holding) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยกับพวกรวม 7 ราย ได้แก่ นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์,นายสมชาย ศรีพยัคฆ์,นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน,หม่อมหลวงอภิษฎา ชยางกูร,นางสาวนิภาพร คมกล้า,นายกรวิวัฒน์ วัฒนะธรรมวงศ์ และนางสาวมุทิตา นิลสวัสดิ์ ซึ่งนายสุริยา ลาภวิสุทธิสินนั้น เคยเป็นอดีตรมช.พาณิชย์สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเคยก่อคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับการปั่นหุ้นบริษัทปิกนิค ที่ตนเป็นผู้บริหาร
       
       สำหรับ 6 ประเด็นที่กล่าวโทษเพื่อ ได้แก่
1.ทุจริตยักยอกเงินผ่านการให้กู้ยืมของ SECC Holding จำนวน 245 ล้านบาท โดยตรวจสอบพบพยานหลักฐานว่า นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ กับนายสมชาย ศรีพยัคฆ์ ที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของ SECC Holding และนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน ได้ร่วมกันยักยอกเงินของ SECC ผ่านการให้กู้ยืมของ SECC Holding แก่บุคคล 4 ราย รวม 245 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่ SECC นำไปลงทุนใน SECC Holding และน่าเชื่อว่า ผู้ที่กู้ยืมเงินดังกล่าว ถูกทั้ง3ใช้ชื่อเพื่อปกปิดการยักยอกเงินของตน จึงเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 307, 308,311, 313,315 มาตรา 89/7 และมาตรา 89/24 แห่ง พรบ.หลักทรัพย์ฯ
       
       นอกจากนี้ ยังพบพยานหลักฐานว่า หม่อมหลวงอภิษฎา (เดิมชื่อหม่อมหลวงภัทรวดี) ชยางกูร ซึ่งมีชื่อเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัทที่อนุมัติการให้กู้ยืม เป็นผู้ลงนามในเช็คจ่ายเงินให้บุคคลทั้ง 4 รายดังกล่าว ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของ SECC Holding ด้วยความรับผิดชอบและระมัดระวัง จึงเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 89/7 ประกอบมาตรา 89/24 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ
 2.ยักยอกเงินฝากของ SECC Holding จำนวน 30 ล้านบาท โดยฝืมือนายสมชาย ศรีพยัคฆ์
 3.ทุจริตยักยอกเงิน 42 ล้านบาทจากบัญชีจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งนายสมพงษ์กระทำการโดย น.ส.นิภาพร คมกล้า และนายสมชาย ศรีพยัคฆ์ ร่วมมือ
 4ทุจริตโดยยักยอกชุดจดทะเบียนรถยนต์ของบริษัทไปใช้แสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งนายสมพงษ์ได้ยักยอกชุดจดทะเบียนรถยนต์ 25 คัน นำไปใช้ค้ำประกันหนี้ส่วนตัว ทำให้ SECC เสียหาย เนื่องจากถูกลูกค้าที่ซื้อรถไป แล้วไม่มีชุดจดทะเบียนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
       
   5.ตกแต่งรายได้ค่าขายรถยนต์ 30 ล้านบาทในปี 2550 ซึ่ง ก.ล.ต.พบว่านายสมพงษ์และนางสาวนิภาพร คมกล้าร่วมกันลงข้อความเท็จในบัญชี เพื่อลวงผู้ถือหุ้นและบุคคลอื่น และ
   6.อดีตกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในเช็คหรือใบถอนเงินของบริษัทไม่ปฏิบัติ หน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ โดยตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตใน SECC พบการยักยอกเงินที่เกิดขึ้นได้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่นายกรวิวัฒน์ วัฒนะธรรมวงศ์ (เดิมชื่อนายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์) อดีตกรรมการและกรรมการผู้จัดการ และนางสาวมุทิตา นิลสวัสดิ์ อดีตกรรมการ (ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด และประชาสัมพันธ์) ได้ลงนามล่วงหน้าในเช็คหรือลงนามโดยละเลยที่จะตรวจสอบความถูกต้องของรายการ จนทำให้มีการถอนเงินออกจาก SECC ไปเพื่อประโยชน์ของนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ หรือบุคคลอื่น และทำให้ SECC เสียหาย
http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9520000104954


--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ park
http://kbparks.blogspot.com/ kbpark
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.educationatclick.com
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๒ รวมตัวเวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า เชิญร่วมเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้อง "สิทธิศักดิ์ศรีชนชั้นกรรมาชีพ"

เชิญร่วมเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้อง “สิทธิศักดิ์ศรีชนชั้นกรรมาชีพ” : คสรท.

by : pijawat (pijawat)
Mail to rothphai-tom@hotmail.com
IP : (124.120.155.203) - เมื่อ : 11/09/2009 01:14 PM

คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)
Thai Labour Solidarity Committee (TLSC.)
สำนักงานประสานงาน ๕๐๓/๒๐ ถนนนิคมรถไฟ มักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐
โทรศัพท์/โทรสาร ๐-๒๖๕๔-๗๖๘๘
อีเมล vrlabour@gmail.com, kwanza@unithailand.org Website : www.unithailand.org , Webblog :http://solidarity.blogth.com
ที่ คสรท. ๗๘/๒๕๕๒

๑๑ กันยายน ๒๕๕๒

เรื่อง เชิญร่วมเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้อง “สิทธิศักดิ์ศรีชนชั้นกรรมาชีพ”

เรียน

เนื่องด้วยผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องผู้ใช้แรงงานในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการเลิกจ้าง การใช้มาตรา ๗๕ ในการจ้างงาน การลดเวลาการทำงาน และการคุกคามสิทธิคนงานและสิทธิสหภาพแรงงานในรูปแบบต่างๆ ตามสถานการณ์ที่เราทราบกันดีขณะนี้ ทั้งนี้นายจ้างบางสถานประกอบการก็ประสบกับปัญหาวิกฤตจริง แต่บางแห่งก็ใช้โอกาสวิกฤตเศรษฐกิจเป็นข้ออ้างในการเอาเปรียบคนงาน ใช้โอกาสในการลดต้นทุนการผลิต และที่สำคัญใช้โอกาสวิกฤตเศรษฐกิจนี้ในการทำลายและคุกคามสหภาพแรงงานและสิทธิของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ไม่ว่าจะเป็น กรณีของคนงานบริษัท เวร์ลเวล การ์เม้นท์ , พี่น้องสหภาพแรงงานไทรอัมพฯ , สหภาพแรงงานแคนนาดอล ฯลฯ

จากสภาพปัญหาดังกล่าวข้างต้น คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย มีความตระหนักถึงความสำคัญต่อปัญหา และมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเครือข่ายองค์กรแรงงานต่างๆพยายามนำเสนอและผลักดันให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ปัญหาต่างๆก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขไปในทิศทางที่ดีขึ้น ในทางกลับกันภาครัฐยังใช้วิธีการคุกคามคนงานและสหภาพแรงงานอย่างไม่เป็นธรรม ดังนั้นเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่พี่น้องผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษบกิจ และพี่น้องคนงาน สหภาพแรงงานที่ถูกคุกคาม คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ร่วมกับเครือข่ายองค์กรแรงงานต่างๆ ได้กำหนดเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้อง “สิทธิศักดิ์ศรีชนชั้นกรรมาชีพ” ในวันอังคารที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๒ รวมตัวเวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า

จึงเรียนมาเพื่อโปรดเข้าร่วมและส่งผู้แทนเข้าร่วมการรณรงค์เรียกร้องดังกล่าวข้างต้น ให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้

ด้วยความสมานฉันท์
(วิไลวรรณ แซ่เตีย)
ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย
โทรศัพท์ ๐-๒๖๕๔-๗๖๘๘



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
news
http://net209.blogspot.com/ net9
http://parent-youth.blogspot.com/ parent-youth.net
http://parent-net.blogspot.com/ parent
http://netnine.blogspot.com/  science

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

ประชาไท | Prachatai.com



 
จาก: ประชาไท หนังสือพิมพ์ออนไลน์ <service@prachatai.com>
วันที่: กันยายน 2, 2009 5:18 ก่อนเที่ยง
หัวเรื่อง: ประชาไท | Prachatai.com
ถึง: 


ประชาไท | Prachatai.com

Link to ประชาไท หนังสือพิมพ์ออนไลน์

กระทรวงยุติธรรมยังไม่ตัดสินใจ ฎีกาเสื้อแดง ถวายได้หรือไม่ ระบุไม่เคยมีมาก่อน

Posted: 01 Sep 2009 02:53 PM PDT

กิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ เผยสำนักปลัดกระทรวงยุติธรรมพิจารณาละเอียดกรณีคนเสื้อแดงถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ทักษิณ ระบุ แตกต่างจากฎีกาที่เคยมีมาทั้งหมดจึงจำเป็นต้องมีการวินิจฉัยประเภทของฎีกาว่าเป็นฎีการ้องทุกข์หรือฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีกรณีที่ตัวผู้ต้องโทษไม่อยู่ในประเทศ  ไม่ได้เป็นขอฎีกาเองแต่มีประชาชนจำนวนมากเป็นผู้ขอให้

read more

ครม. ยกเลิกประกาศใช้ พรบ. ความมั่นคงช่วงวันที่ 29 ส.ค. - 1 ก.ย. แสตนบายอีกที 19 ก.ย.

Posted: 01 Sep 2009 02:43 PM PDT

ผลการประชุมคณะรัฐมนตรีประเมิน เสื้อแดงไม่ชุมนุมวันที่ 5 ก.ย. แต่คาดว่าจะชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. แน่นอน สุเทพให้ครม. สแตนด์บาย พร้อมประชุมฉุกเฉินเผื่อใช้ กฎหมายความมั่นคงคุมม็อบ จตุพร ยันคนเสื้อแดงชุมนุมแน่ 5 ก.ย.

read more

นักสิ่งแวดล้อมรัฐฉานเรียกร้องให้จีนหยุดโครงการสร้างเขื่อนในพื้นที่สู้รบ

Posted: 01 Sep 2009 02:19 PM PDT

องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมในรัฐฉานและสาละวินว็อทซ์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สองบริษัทจีนยุติแผนก่อสร้างเขื่อน “กุนโหลง” บนแม่น้ำสาละวินตอนบนของรัฐฉาน เนื่องจากใกล้พื้นที่ก่อสร้างมีการสู้รบระหว่างทหารพม่าและกองกำลังเขตปกครองพิเศษโกก้าง

read more

ไอซีทีเล็งปิดประชาไท อ้างแพร่คลิปมาร์ค

Posted: 01 Sep 2009 02:15 PM PDT

ปลัดไอซีทีเล็งขออำนาจศาลปิดกั้น 8 เว็บ รวม “ประชาไท” ด้วย อ้างเป็นแหล่งเผยแพร่คลิปมาร์ค ลั่นถ้ามีการเผยแพร่อีกจะฟ้องหลายกระทง ด้านศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต ก.ไอซีที เผย ปิดไปแล้ว 18,390 เว็บ อ้างเป็นเว็บกระทบความมั่นคง 10,578 เว็บ

read more

ชาวบ้านคอนสาร จี้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาหลังถูก “อ.อ.ป.” ฟ้องขับไล่ออกจากพื้นที่

Posted: 01 Sep 2009 01:29 PM PDT

กรณีข้อพิพาทสวนป่าคอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านผู้เดือดร้อนเร่ง “สาทิตย์” ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานสำรวจพื้นที่ผ่อนผัน ร้อง “อภิสิทธิ์” จี้ “สุวิทย์” สั่งการ อ.อ.ป.ถอนฟ้องชาวบ้าน พร้อมร่วมประชุมเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา ส่วนในพื้นที่จัดผ้าป่าระดมทุน หวังพัฒนาพื้นที่เป็นพื้นที่นำร่องโฉนดชุมชนตามนโยบายรัฐบาล

read more

รณรงค์สานเสวนา หวังเกิดแรงงานสัมพันธ์ที่ดี

Posted: 01 Sep 2009 10:34 AM PDT

วงเสวนา ชวนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสถานประกอบการสานเสวนา หรือ Social Dialogue เพื่อสร้างความเข้าใจกันในเรื่องมาตรฐานแรงงานสากลและธรรมาภิบาลในระบบการจ้างงาน หวังทำให้เกิดแรงงานสัมพันธ์ที่ดี

read more

ศึกพม่า-โกก้างยุติผู้หนีภัยทยอยกลับ ด้านผู้นำ SSA แนะกลุ่มหยุดยิงยึดเป็นบทเรียน

Posted: 01 Sep 2009 10:27 AM PDT

สำนักข่าวฉาน

สำนักข่าวฉานรายงานว่า การสู้รบทหารพม่ากับกลุ่มโกก้างยุติแล้ว โดยผู้อพยพเริ่มทะยอยเดินทางกลับซึ่งบางคนถูกทหารพม่าค้นบ้านร้านค้าเสียหาย ด้านผู้นำ SSA แนะให้กลุ่มหยุดยิงยึดเป็นบทเรียน ส่วนกลุ่มประชาธิปไตยจี้รัฐบาลพม่าเลิกสร้างความแตกแยก

เรื่องที่เกี่ยวข้อง: 

read more

ร้านน้ำชา อบย. สยามสแควร์บ้านคลองเขม้า

Posted: 31 Aug 2009 11:08 PM PDT

วิภาวี เธียรลีลา
ทีมงานสื่อสารสังคม มูลนิธิสยามกัมมาจล

ร้านน้ำชา “อบย.” บ้านคลองเขม้า อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ อีกตัวอย่างหนึ่งของธุรกิจชุมชนฝีมือเยาวชนที่ “น่าชื่นชม” เป็นพลังคิดเชิงบวกที่ผู้ใหญ่ควรช่วยกันส่งเสริมให้ยั่งยืน

read more

สรุปข่าวพม่ารอบสัปดาห์ (25 - 31 ส.ค.52)

Posted: 31 Aug 2009 06:52 PM PDT

พระสงฆ์พม่าเตรียมประท้วงรัฐบาล ไม่รับบิณฑบาตจากผู้นำ – บัณฑิตพม่าจบใหม่ตกงานเพียบ - พม่ายึดยาบ้าในท่าขี้เหล็กได้เกือบ 3 ล้านเม็ด - KIA สั่งทหารเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีจากกองทัพพม่า – พม่าเลิกแบนน้ำมันพืช - โกก้างยุติรบพม่า หันมาวางอาวุธให้ทางการจีนแทน

read more

ผู้นำโกก้างออกแถลงการณ์เรียกร้องชนกลุ่มน้อยสู้พม่า

Posted: 31 Aug 2009 06:34 PM PDT

การสู้รบพม่า-โกก้างเบาบางลงโดยทหารพม่าสามารถควบคุมยุทธศาสตร์สำคัญได้เป็นส่วนใหญ่ ด้านโกก้างใช้กลยุทธซุ่มโจมตีเป็นหลัก ขณะที่ผู้นำได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องกลุ่มติดอาวุธหันหน้าสู้พม่าเพื่อปกป้องการกลืนชาติ

read more

You are subscribed to email updates from ประชาไท หนังสือพิมพ์ออนไลน์
To stop receiving these emails, you may unsubscribe now.
Email delivery powered by Google
Google Inc., 20 West Kinzie, Chicago IL USA 60610



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
news
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.narit.or.th
http://dbd-52.hi5.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.momypedia.com
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://icann-ncuc.ning.com
http://www.webmaster.or.th
http://weblogcamp2009.blogspot.com